Search Engine Optimization

ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

Rich Snippets คือ ส่วนที่ Google ใช้เพื่ออธิบายเพิ่มเติมให้คุณสมบัติเฉพาะของเว็บไซต์ที่แสดงในผลการค้นหานั้นๆ 

ประโยชน์ในแง่ของ Google นั้น คือช่วยให้ Google เข้าใจความหมายของเนื้อหาว่าเกี่ยวข้องกับอะไร สิ่งที่นำเสนอในเนื้อหานั้นมีการนำเสนอ อะไรบ้างเช่น rating ระยะเวลา หรือ ราคา  เป็นต้น ส่วนประโยชน์ในแง่ของผู้ใช้งานที่เห็นได้ชัดคือสามารถดูข้อมูลคร่าวๆว่าเว็บไซต์ที่ปรากฏนั้นจะมีเนื้อหาประเภทใดอยู่บ้าง จึงเป็นการช่วยให้ตัดสินใจที่จะคลิ๊กเข้าไปดูได้ง่ายขึ้น

ยกตัวอย่าง เช่น

ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Google Rich Snippets

จากภาพจะเห็นได้ว่า ผลการค้นหานี้นั้น ได้แสดง Rating  เวลาที่ใช้ในการทำ รวามถึง แคลอรี่ ของอาหารจานนี้ ซึ่งส่วนนี้เอง ที่เรา เรียกว่า Google Rich Snippets ที่ Google ดึงมาใช้อธิบายเพิ่มเติมบนผลแสดงการค้นหา ทำให้ผู้ใช้งาน สามารถเห็นรายละเอียดที่น่าสนใจของเว็บไซต์นั้นๆ ได้มากขึ้นนั่นเอง

ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Google Rich Snippets

จากภาพข้างบนนี้ เราเห็นอะไรได้บ้าง?

จะเห็นได้ว่า บนผลแสดงการค้นหานี้ ไม่มีตัวช่วยการตัดสินใจอย่าง Google Rich Snippet อยู่เลย

ซึ่งคงเป็นการดีกว่า หากเราจะใช้เจ้าตัว Google Rich Snippets นี้ลงในเว็บไซต์ของเรา เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้งาน ซึ่งส่งผลให้ผู้ใช้งานมีเปอร์เซ็นต์การเข้าชมเว็บไซต์ที่สูงขึ้น

ที่สำคัญประโยชน์ต่อเจ้าของเว็บไซต์ มีอยู่ 3 อย่างที่ชัดเจนที่สุด คือ

  1. แน่นอนว่า จะช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ที่กำลังค้นหาใน Google
  2. ช่วยสรุปเนื้อให้ผู้ค้นหาได้เข้าใจในทันทีว่าเว็บไซต์ของเราจะเกี่ยวข้องกับอะไร
  3. Google ได้ออกมาตอบคำถามแล้วว่า Rich Snippets ไม่ได้มีผลต่ออันดับการค้นหาแต่อย่างได แต่จากประโยชน์ที่ 2 อย่างที่กล่าวมา สรุปรวบยอดจะช่วยเพิ่ม Click Through Rate ให้สูงขึ้นแม้เว็บไซต์ของเราจะไม่อยู่อันดับ 1 ก็ตาม สังเกตุว่าผลการค้นหาที่มี Rich Snippets ที่ได้แสดงในตัวอย่างไม่จำเป็นต้องอยู่อันดับ 1 แต่เมื่อเราเห็นแล้วกลับมีความรู้สึกอยากคลิ๊กเข้าไปดูข้างในเว็บไซต์เหล่านั้น มากกว่าผลการค้นหาอื่นๆที่มีแค่ข้อความอธิบายแบบมาตรฐานทั่วๆไป

ประเภทของเนื้อหาในหน้าเว็บเพจที่รองรับ RICH SNIPPETS 

เพื่อที่จะให้แสดง Rich Snippets หน้าเว็บนั้นๆต้องใส่ Schema Markup ให้เหมาะสมกับประเภทของเนื้อหาที่รองรับ Rich Snippets ซึ่งต้องทำตามมาตรฐานที่ระบบไว้ใน www.schema.org

ซึ่งทาง Schema.org ได้กำหนดประเภทของเนื้อหาดังกล่าวเป็น 7 ประเภทดังนี้

  • Products คือรายละเอียดของสินค้าต่างๆ ซึ่งข้อมูลส่วนขยายส่วนใหญ่จะเป็น ราคา Rating สถานะว่ามีในสต๊อก หรือหมดสต๊อก เป็นต้น ดังตัวอย่าง
ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Rich Snippets

  • Recipes อย่างเช่น พวกสูตรการทำอาหารต่างๆ ส่วนข้อมูลส่วนขยายจะเป็นรูปขนาดเล็ก Rating ระยะเวลาในการปรุง และข้อมูลทางโภชนาการอื่นๆ ดังเช่นตัวอย่าง
ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Rich Snippets

  • Reviews จะเป็นบทความรีวิวต่างๆที่สามารถนำมารีวิวได้ ไม่ว่าสินค้าจะเป็น หนังสือ ภาพยนตร์ ร้านอาหาร รถยนต์ ฯลฯ เป็นต้น ส่วนข้อมูลส่วนขยายจะเป็น ค่า Rating ซึ่งจะระบุเป็นจำนวนดาว และ review (อาจจะเป็นชื่อผู้รีวิว หรือ ตัวอย่างรีวิว) ดังตัวอย่าง
ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Rich Snippets

  • Events คือ งานอีเวนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงสินค้า คอนเสิร์ต การแสดง งานสัมมนา ส่วนข้อมูลส่วนขยายจะเป็นวัน เวลา ชื่ออีเวนต์ เป็นต้น ดังตัวอย่าง
ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Rich Snippets

  • Videos คือ วีดีโอที่อัพขึ้นบนอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นวีดีโอ YouTube มากกว่า ส่วนข้อมูลส่วนขยายจะเป็นรูปขนาดเล็กของวีดีโอ ความยาวของวัดีโอ วันที่อัพโหลด เป็นต้น ดังตัวอย่าง
ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Rich Snippets

  • Articles จะเป็นเนื้อหาบทความ ข่าวอัพเดทต่างๆ แต่บทความตรงนี้จะเจาะจงเป็นบทความข่าว เนื้อหาที่ทันต่อเหตุการณ์ ส่วนใหญ่จะปรากฏในส่วนของ In the news ในผลการค้นหา Google ซึ่งโดยส่วนมากแล้ว Google จะเลือกแสดงเฉพาะเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีการอัพเดทประจำ เช่นเว็บไซต์ข่าวสาร ส่วนบทความที่คนทั่วไปเขียนเช่น บล็อก หรือ บทความประเภทอื่นๆ มักจะไม่ถูกแสดงเป็น Rich Snippets ซักเท่าไหร่นัก ดัวตัวอย่าง
ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Rich Snippets

  • Software Applications แสดงข้อมูลเกี่ยวกับซอท์ฟแวร์ต่างๆ เช่น โปรแกรมใช้งาน แอป เกมส์ เป็นต้น ส่วนข้อมูลส่วนขยายจะเป็น Rating จำนวนที่โหวต ข้อมูลบอกว่าเป็นของฟรีหรือต้องเสียเงินซื้อ    ดังตัวอย่าง
ข้อมูลและรายละเอียดของ Google Rich Snippets

ตัวอย่าง Rich Snippets

 

ถึงแม้ว่าเจ้า  Rich Snippets จะสามารถ implement ได้อย่างง่ายๆ แต่เมื่อทำแล้วจะปรากฏในผลการค้นหาหรือไม่นั้นอยู่ที่ Google ทั้งหมด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทุกเว็บไซต์ที่ทำ Rich Snippets จะแสดงส่วนอธิบายข้อมูลได้ทุกเว็บ ในทางตรงข้ามก็เป็นการยากพอสมควรที่เว็บไซต์ธรรมดาจะแสดงข้อมูลดังกล่าวได้ การจะให้ได้ผลต้องใช้เวลา ต้องจัดการเนื้อหาให้เหมาะสม ต้องทำให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือพอสมควร แต่การทำไว้ก็ยังดีกว่าไม่ทำ ใครจะรู้ว่าหากเจอ Keyword ที่เหมาะสม เว็บของเราอาจจะปรากฏในผลการค้นหาอันดับต้นๆ พร้อมกับ Rich Snippets ก็เป็นได้

SEO Modify

SEO Modify รวมวิธีทำ SEO

รวบรวมเรื่องราว กลยุทธ์การทำ SEO ข่าวสาร ข้อมูลการตลาด และเทคนิคต่างๆ ในการปรับแต่งเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้นๆบนผลการค้นหา

Logo

SEO Modify